มาตรการใหม่คุมเข้มการเข้าออกช่องทางพรมแดน
2020/4/27
1. เพิ่มเติมประเทศปลายทางที่ห้ามเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
ห้าม 14 ประเทศ และภูมิภาคปลายทางที่ระบุไว้ด้านล่างนี้* เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น ห้ามให้ชาวต่างชาติที่มีประวัติเดินทางไปประเทศดังกล่าวภายใน 14 วันก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่น ยกเว้นมีสถานการณ์พิเศษ
*สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, แอนติกาและบาร์บูดา, ยูเครน, โอมาน, กาตาร์, คูเวต, ซาอุดิอาระเบีย, จิบูตี, เซนต์คิตส์และเนวิส, สาธารณรัฐโดมินิกัน, บาร์เบโดส, เบลารุส, เปรู, รัสเซีย
(หมายเหตุ 1) รวมทั้งหมด 87 ประเทศ และภูมิภาคปลายทางที่ระบุไว้ดังกล่าวข้างต้น ห้ามเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
(หมายเหตุ 2) ชาวต่างชาติที่มีสถานะ “พำนักถาวร”, “คู่สมรส หรือบุตรของคนญี่ปุ่น”,
“คู่สมรส หรือบุตรของผู้ที่มีสถานะพำนักถาวร” หรือ “บุตรที่ติดตามมารดา” ที่ได้เดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่นภายในวันที่ 28 เมษายน 2563 และมี re-entry permit จะถือว่าเป็นบุคคลในสถานการณ์พิเศษ และสามารถเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่นได้ แต่จะไม่รวมชาวต่างชาติที่เดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 29 เมษายน 2563 หรือหลังวันที่ 29 เมษายน 2563 ยกเว้นผู้ที่มีสถานะ “พำนักถาวรพิเศษ” จะไม่ถูกห้ามเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
2. เข้มงวดการกักกัน
สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศ และภูมิภาคที่ระบุไว้ตามมาตรการข้อ 1 ดังกล่าวข้างต้น ภายใน 14 วันก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่น จะต้องตรวจ PCR หาเชื้อโควิด-19 หลังจากถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว
3. ต่อเนื่องมาตรการใหม่คุมเข้มการเข้าออกช่องทางพรมแดนที่มีผลบังคับใช้อยู่
ดำเนินการต่อเนื่องมาตรการเข้มงวดการกักกันตามที่ได้ตกลงกันไว้ในที่ประชุมครั้งที่ 20, 22, 23 และ 25 เพื่อยับยั้งไวรัสโคโรน่าที่สำนักงานใหญ่ (เมื่อวันที่ 18, 23, 26 มีนาคม 2563 และ 1 เมษายน 2563) นั้น สำหรับมาตรการเข้มงวดการกักกัน ควบคุมวีซ่า จำกัดเครื่องบินขาเข้าสนามบินรวมถึงลดจานวนผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น ที่มีผลบังคับใช้จนถึง 30 เมษายน 2563 นี้ จะดำเนินการต่อเนื่องไปจนถึง 31 พฤษภาคม 2563 และสามารถขยายระยะเวลาออกไปได้อีก
*มาตรการข้อ 1 และข้อ 2 ดังกล่าวข้างต้นจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืน (00.00 น.) ตามเวลามาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น ของวันที่ 29 เมษายน 2563 และยังมีผลบังคับใช้อีกระยะหนึ่ง มาตรการนี้ จะรวมถึงผู้ที่เดินทางออกก่อนที่มีการบังคับใช้ และไปถึงประเทศญี่ปุ่นหลังจากที่มีการบังคับใช้