การจัดงานเลี้ยงฉลองวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิ ประจำปี พ.ศ. 2568

　สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ได้จัดงานเลี้ยงฉลองวาระครบ 65 พรรษาของสมเด็จพระจักรพรรดิ ณ โรงแรมแมริออท เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568 โดยมีแขกผู้มีเกียรติจากหลากหลายวงการในภาคเหนือของไทย ตั้งแต่ราชนิกุลฝ่ายเหนือ นักการเมือง นักธุรกิจ ข้าราชการ ตลอดจนบุคคลในแวดวงการศึกษาได้ให้เกียรติเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ในงานเลี้ยงดังกล่าว นายฮาราดะ มาซารุ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ได้กล่าวสุนทรพจน์ ตามด้วยการกล่าวแสดงความยินดีจาก นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากนั้นได้มีการดื่มถวายพระพรด้วย 'มิโอะ' สปาร์คกลิ้งสาเก ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากจังหวัดเกียวโต
　ในสุนทรพจน์ของกงสุลใหญ่ฮาราดะ ได้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิ และกล่าวถึงมิตรภาพอันยาวนานระหว่างญี่ปุ่นและไทย โดยเฉพาะความร่วมมือทางเศรษฐกิจจากรัฐบาลญี่ปุ่นหลังสงคราม และการลงทุนจากภาคเอกชนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจไทย และก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาลแก่ทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ท่านกงสุลใหญ่ยังได้กล่าวถึงชุมชนชาวญี่ปุ่นที่พำนักอยู่ในภาคเหนือของไทยที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับชาวไทยในพื้นที่ รวมถึงจะตั้งมั่นในการเป็นสมาชิกที่ดีในส่วนหนึ่งของสังคมไทย อีกทั้งยังเน้นย้ำถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของความร่วมมือด้านการศึกษาและวิชาการระหว่างญี่ปุ่นและภาคเหนือของไทย โดยหวังว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาจะช่วยส่งเสริมการลงทุนระหว่างสองประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้นอีกด้วย
　ทางด้านนายนิรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์อันกว้างขวางระหว่างภาคเหนือของไทยและญี่ปุ่น รวมถึงแสดงความขอบคุณสำหรับ “โครงการความร่วมมือแบบให้เปล่าเพื่อความมั่นคงของมนุษย์” ที่รัฐบาลญี่ปุ่นให้การสนับสนุน นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความช่วยเหลือจากญี่ปุ่นในช่วงที่ภาคเหนือของไทยประสบอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว พร้อมทั้งกล่าวต้อนรับนักเดินทางและผู้ที่พำนักระยะยาวจากญี่ปุ่นเป็นภาษาญี่ปุ่นอีกด้วย 
　ภายในงานยังมีการแสดงตีกลองไทโกะจากชมรมไทโกะ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย และการแสดงระบำร่มญี่ปุ่นจากนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวญี่ปุ่นที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย รวมถึงการจัดบูธส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเกียวโตและจังหวัดยามากุจิ ซึ่งนำสาเกและชาเขียวญี่ปุ่นมาให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลิ้มลอง นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงผลงานจาก “โครงการโคโยริ (KOYORI Project)” ซึ่งเป็นโครงการที่นักออกแบบชาวญี่ปุ่นและชาวไทยได้ร่วมมือกับช่างฝีมือจากภาคเหนือของประเทศไทยเพื่อสร้างสรรค์งานหัตถกรรมร่วมสมัยโดยผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมของภาคเหนือที่ได้ร่วมมือกับมูลนิธิโครงการหลวงอีกด้วย